หยก สิริมาศ วาลย์มนตรี Sales Executive
หยก สิริมาศ วาลย์มนตรี สาวน้อยจากรั้วมหาวิทยาลัยขอนแก่น |
|
|
|
ก้าวเข้ามาสู่บ้าน ReadyPlanet ได้อย่างไรคะ? หลังจากเรียนจบด้านสารสนเทศและเทคโนโลยีการสื่อสาร จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ครอบครัวก็ไม่ให้เงินใช้เลยค่ะ ทำให้เราต้องหางานทำในทันที ตอนแรกหยก ขายเครื่องสำอางบนเฟซบุ๊ก แต่มีรายได้เพียงเดือนละ 2,000 - 5,000 บาท เลยลอง หาข้อมูลในกระทู้พันทิปว่าอาชีพอะไรที่ทำแล้วมีรายได้มากและตั้งตัวได้เร็ว หลายคนบอกว่าอาชีพเซลล์ หยกจึงลองค้นหาดูจากเว็บไซต์สมัครงาน พบว่า ReadyPlanet เปิดรับสมัครเจ้าหน้าที่ขายเป็นจำนวนมาก และยินดีรับนักศึกษาจบใหม่ ที่สำคัญคือ ธุรกิจของบริษัทเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ จึงตัดสินใจสมัครตำแหน่งเจ้าหน้าที่ขายกับที่นี่ค่ะ |
|
คิดอย่างไรที่ต้องทำงานไม่ตรงกับสายที่เรียนมาคะ? สำหรับหยกมองว่าถ้าเราเรียนจบมาแล้วไม่ได้ทำงานตรงสาย ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ประสบความสำเร็จ สิ่งสำคัญคือเราต้องค้นหาตัวเองให้เจอว่าเราชอบงานด้านไหน แล้วทำในสิ่งที่เราชอบ ความสุขในการทำงานจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เราประสบความสำเร็จในที่สุด หยกรู้ตัวว่าเราเป็นคนชอบพูดคุย พบปะผู้คน ถึงแม้ว่างาน Telesales จะได้เจอหน้าลูกค้าไม่บ่อยนัก แต่เราได้คุยกับลูกค้าทั้งวัน ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมายจากลูกค้า และยังพบว่าข้อดีของอาชีพนี้คือ เราสามารถกำหนดรายได้ด้วยตัวเราเอง หยกจะคิดไว้เลยว่าเดือนนี้เราต้องรายได้เท่าไร เราต้องตั้งเป้าหมาย แล้วเราก็ต้องทำให้ได้ เมื่อสิ่งนั้นสำเร็จแล้วจะทำให้เราประทับใจและภูมิใจในตัวเองมาก |
|
ทำงานที่ ReadyPlanet มา 1 ปี แล้ว เป็นอย่างไรบ้างคะ? 1 ปีที่ทำงานที่ ReadyPlanet ถือว่าได้ประสบการณ์เยอะมาก ชอบบรรยากาศการทำงานที่เป็นกันเอง พี่ๆทุกคนพร้อมที่จะให้คำปรึกษา บางเคสที่ยังไม่เคยเจอมาก่อน เราก็มาช่วยกันหาคำตอบ หยกได้หัวหน้าที่คอยสอนให้ศึกษาสินค้าโดยให้เราหาข้อมูลและเรียนรู้ด้วยตัวเองก่อน ลองศึกษาฟีเจอร์ของแต่ละตัวว่าทำอะไรได้บ้าง แล้วลองเล่นเดโม่ว่าแต่ละ โปรดักส์ตอบโจทย์ธุรกิจของลูกค้ามากน้อยแค่ไหน สไตล์การสอนของหัวหน้าหยกจะไม่ไช่ให้นั่งอ่านเอกสาร แต่จะสอนให้คิดได้ด้วยตัวเอง |
|
|
น่าจะเป็นเรื่องการพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ มีเป้าหมายและทัศนคติที่ดีค่ะ หยกคิดว่าตนเองเป็นคนเรียนรู้เร็ว แต่ไม่ใช่เกิดมาเราก็จะมีคุณลักษณะข้อนี้เลย ต้องฝึกให้ตัวเองเป็นคนที่พร้อมจะเรียนรู้ตลอดเวลา และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องเหมือนค่านิยมองค์กรที่ว่า Improve Continuously อีกข้อหนึ่งที่สำคัญคือ ทัศนคติในการทำงาน หยกภูมิใจในอาชีพเซลล์ เชื่อมั่นในตัวสินค้าและบริการของบริษัท ก่อนที่เราจะนำเสนอขายให้ลูกค้าเราก็จำเป็นต้องมีตรงนี้ก่อน หยกคิดว่าทุกคนต้องพยายามกับอะไรที่เริ่มใหม่เสมอ อย่างเช่นตอนที่เริ่มงานใหม่ หยกกลับบ้านไป 4-5 ทุ่ม ศึกษาข้อมูล Product พอสงสัยอะไรหยกก็ไลน์ถามหัวหน้า ทุกวันนี้กลับบบ้านไปก็ยังติดเข้าระบบหลังบ้าน เช็คอีเมล์เหมือนอยู่ออฟฟิศ พอเราสนุกกับสิ่งหนึ่ง เราก็สามารถที่จะทำมันได้โดยไม่มีเงื่อนไข เวลาหัวหน้าหรือพี่ๆ คอมเมนท์อะไรมาเราก็ต้องมาปรับปรุงพัฒนาตัวเอง ไม่โกรธค่ะ เพราะบางอย่างเราไม่รู้หรอกว่าเราเป็นยังไง เราต้องเปิดใจรับฟัง ถ้าเราปรับได้มันจะดีสำหรับเรา |
อยากให้ช่วยแชร์เทคนิคการขายของเราค่ะ? หยกจะตั้งเป้าหมายไว้ว่าในแต่ละเดือนเราต้องการรายได้ขั้นต่ำเท่าไร แล้วเราต้องทำให้ได้มากกว่าและมากขึ้นเรื่อยๆ ในหนึ่งวันหยกจะโทรประมาณ 100 สายขึ้นไป ถ้าเราโทรเยอะ ก็เหมือนเราสร้างฐานลูกค้าไว้มาก วันหนึ่งสิ่งที่เราทำไว้ก็จะเกิดผล และถ้าวันไหนที่หยกเคลียร์งานเสร็จเร็ว หยกจะเข้าไปดูความเคลื่อนไหวเว็บไซต์ลูกค้า โทรไปหาลูกค้าที่เปิดเว็บไซต์กับเราไปแล้ว เพื่อสอบถามติดตามผล บางทีก็คุยเรื่องอื่นๆ บ้าง ไม่ให้ลูกค้ารู้สึกว่าเราขายได้แล้วก็เลิกสนใจ เราต้องแพลนงานเผื่อเวลาในส่วนนี้ด้วยค่ะ ถ้าเดือนไหนเราประเมินแล้วว่ายอดเราอาจจะไม่ค่อยดี หยกก็จะเข้ามาที่บริษัทในวันหยุด ถ้าเราไม่ได้ติดธุระอะไร มันก็ช่วยเพิ่มยอดขายให้เราได้ พอเห็นค่าคอมมิชชั่นหยกก็หายเหนื่อย ทำให้เราภูมิใจในตัวเองขึ้นมา อีกอย่างหนึ่งคือ การได้ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ จะทำให้เราได้ลูกค้าเพิ่มขึ้นด้วย เมื่อหยกได้รับบริการจากธุรกิจดีๆ หยกจะแลกนามบัตรไว้ แนะนำตัวว่าเราทำงานอะไร เมื่อก่อนกลัวว่าลูกค้าจะรำคาญ แต่พอมาเป็นเซลล์ หยกต้องเปลี่ยนทัศนคติตัวเอง การแลกนามบัตรเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้พูดคุยกับคนอื่นมากขึ้น ในวันนึงเมื่อธุรกิจของลูกค้าเป็นที่รู้จักและมีรายได้สูงขึ้น ลูกค้าจะรักและขอบคุณเรา สิ่งนี้จะทำให้เราภูมิใจมาก |
|
ฝากให้คนที่อยากมาทำงานที่ ReadyPlanet ในสาย งานเซลล์หน่อยค่ะ? |